ฟุตบอลโลก 2022 เช็ครายชื่อ 32 ทีมใดจะรุ่ง ทีมใดจะร่วง!

ได้ครบแล้ว สรุป 32 ทีม ลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งจะแข่งขันในช่วงปลายปีนี้ มีทีมใดจะสามารถทำผลงานได้ตามคาด ทีมใหญ่ทีมใดที่ไม่สามารถไปถึงฝัน ทีมใดจะสร้างปรากฏการณ์ หรือสร้างเซอร์ไพรส์ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 นี้
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ปลายปีนี้จะเริ่มแข่งขันในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2022 และจะแข่งขันวันละ 4 คู่ในรอบแบ่งกลุ่ม จนเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะสลับแข่งวันละ 2 คู่ ไปจนถึงรอบรองชนะเลิศที่จะแข่งวันละ 1 คู่ และไปสิ้นสุดการแข่งขันที่รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธันวาคม 2022
ท้ายที่สุดแล้ว อังกฤษ จะสามารถ ‘Bring it Home’ ได้หรือไม่? ฝรั่งเศส จะกลายเป็นทีมแรกที่สามารถป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลก ต่อจากบราซิลในปี 1962 ได้หรือไม่? บราซิล ทีมชาติที่ครองแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดในโลกถึง 5 สมัยในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 จะกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้ง หรือไม่! เรามาดูพรีวิวพร้อมบทวิเคราะห์ด้วยกันเลย
นี่คือทั้ง 32 ทีมที่มุ่งหน้าสู่กาตาร์ปลายปีนี้!
กลุ่ม A
QATAR
A1 : กาตาร์ (เจ้าภาพ)
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : เจ้าภาพ
อันดับโลก : 51
ผู้จัดการทีม : เฟลิกซ์ ซานเชซ
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: ไม่มี (ผ่านเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกในฐานะเจ้าภาพ)
สตาร์ดัง : Akram Afif (Al-Sadd SC / Qatar), Almoez Ali (Al-Duhail SC / Qatar), Hassan Al-Haydos (Al-Sadd SC / Qatar)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : Abdelkarim Hassan ถูกยกให้เป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของกาตาร์ เป็นผู้เล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายให้กับสโมสรฟุตบอล Al Sadd เขากลายเป็นที่รู้จักหลังการคว้ารางวัล Asian Footballer Award เมื่อปี 2018
บทวิเคราะห์และทำนาย :แอฟริกาใต้ เจ้าภาพปี 2010 เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกเพียงทีมเดียวที่ไม่สามารถผ่านรอบน็อคเอ้าท์ การประเมินรูปแบบเจ้าภาพที่ไม่ต้องลงเล่นในรอบคัดเลือกไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทีมอย่างกาตาร์ ซึ่งเป็นน้องใหม่สำหรับทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
การพ่ายแพ้ในเกมอุ่นเครื่องต่อทีมใหญ่อย่าง โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และ เซอร์เบีย เมื่อปีที่แล้ว ตามมาด้วยการเสมอกับอาเซอร์ไบจานทำให้เกิดความกังวลอย่างมาก อย่างไรก็ตาม กาตาร์ มีดีกรีแชมป์เอเชียนคัพ ภายใต้โค้ชชาวสเปน เฟลิกซ์ ซานเชซ ในปี 2019
กาตาร์ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหนแรก (ในฐานะเจ้าภาพ) ถึงแม้จะเล่นในบ้านแต่โดยขุมกำลังของทีมที่ถือว่าเป็นรองคู่แข่งค่อนข้างเยอะ มีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปน้อยมาก
ECUADOR
A2 : เอกวาดอร์
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 4 รอบคัดเลือก (CONMEBOL)
อันดับโลก : 46
ผู้จัดการทีม : กุสตาโบ อัลฟาโร
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม(2014)
สตาร์ดัง : Enner Valencia (Fenerbahce / Turkey), Pervis Estupinan (Villarreal / Spain), Carlos Gruezo (Augsburg / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง :เอนเนอร์ บาเลนเซีย หัวหอก เฟเนร์บาห์เช ในตุรกี และกัปตันทีมชาติเอกวาดอร์ บาเลนเซียติดทีมชาติ 70 นัดให้ “ลา ตรี” อีกทั้งยังเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เอกวาดอร์ (35 ประตู)
บทวิเคราะห์และทำนาย : เกือบไม่ได้ไปบอลโลก 2022 สำหรับทีมชาติ เอกวาดอร์ หลังถูกชิลี ยื่นคำร้องให้ฟีฟ่าตรวจสอบกรณี เอกวาดอร์ส่งนักเตะเป็นชาวโคลอมเบียโดยกำเนิด ที่มีชื่อว่า ไบรอน กาสติโญ ลงสนามในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ โดยที่เอกวาดอร์ได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อให้เป็นสัญชาติเอกวาดอร์ต่อนักเตะ ก่อนสุดท้าย ฟีฟ่า ได้ตัดสินใจปฏิเสธคำร้องเรียนดังกล่าว
ถึงแม้จะไม่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด 2018 เอกวาดอร์ ถือเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกาใต้ สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายรายการนี้ 4 ครั้ง จาก 6 ครั้งหลังสุด ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่า ชิลี โคลอมเบีย ปารากวัย และเปรู อย่างไรก็ดี ฟุตบอลโลกหนนี้ อาจมีลุ้นเล็กๆ สำหรับการเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ โดยทางเรามองว่า เอกวาดอร์ มีสิทธิ์ลุ้นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอ กับทาง เซเนกัล
SENEGAL
A3 : เซเนกัล
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบสาม (CAF)
อันดับโลก : 20(อันดับสูงสุดตลอดกาล)
ผู้จัดการทีม : Aliou Cissé
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม(2018)
สตาร์ดัง : Kalidou Koulibaly (Napoli / Italy), Edouard Mendy (Chelsea / England), Sadio Mane (Bayern Munich / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ซาดิโอ มาเน่ เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะแอฟริกันแห่งปี 2022 อดีตปีกตัวเก่งลิเวอร์พูล ที่เพิ่งย้ายไปบาเยิร์น มิวนิค ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ หงส์แดง เมื่องฤดูกาลที่ผ่านมา และพาทีมชาติเซเนกัล ชนะทีมชาติอียิปต์ คว้าแชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
บทวิเคราะห์และทำนาย : เซเนกัล เพิ่งคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ไปครองเป็นสมัยแรก หลังดวลจุดโทษชนะอียิปต์ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 แบบหวุดหวิดสำหรับทีมชาติเซเนกัล หลังจากที่เอาชนะจุดโทษอียิปต์มาได้ ในรอบเพลย์ออฟ
ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เพียง 2 ครั้ง (2002 และล่าสุดในปี 2018) เซเนกัล ถือว่าเป็นทีมรวมซุปเปอร์สตาร์ดังจากสโมสรใหญ่หลายคน นับว่าเป็นทีมรวมดาราจากทวีปแอฟรีกาเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่พวกเขาเป็นอีกทีมที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษ และอาจจะสร้างเซอร์ไพร์สในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งน่าจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมตามหลัง เนเธอร์แลนด์ และมีโอกาสลิ่วสู่รอบลึกๆได้อีกด้วย
NETHERLANDS
A4 : เนเธอร์แลนด์
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม G (UEFA)
อันดับโลก : 10
ผู้จัดการทีม : หลุยส์ ฟาน กัล
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: อันดับ 3 (2014)
สตาร์ดัง : Virgil van Dijk (Liverpool / England), Frenkie de Jong (Barcelona / Spain),Memphis Depay(Barcelona / Spain), Matthijs de Ligt (Bayern Munich / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : แน่นอนว่าทีมชาติฮอลแลนด์มีนักเตะตัวท็อปของโลกอยู่หลายรายไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เฟรงกี้ เดอ ยอง, เมมฟิส เดปาย และ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แต่สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ สำหรับนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดของ อัศวินสีส้ม ขอยกให้กัปตันทีมอย่าง ฟาน ไดจ์ค เพราะนี่คือรายการเมเจอร์ครั้งแรกของเจ้าตัวกับทีมชาติ หลังพลาดลุยศึกยูโร 2020 จากปัญหาอาการบาดเจ็บหนัก เอ็นไขว้ขาหน้าหัวเข่าฉีกขาด
บทวิเคราะห์และทำนาย : “อัศวินสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2020 ได้อย่างสุดแกร่งหลังชนะรวด 3นัด ก่อนที่จะตกรอบ 16 ทีม ไปอย่างเหลือเชื่อ หลังเหลือผู้เล่น 10 คน และพ่ายให้กับ เช็ก 2-0
เนเธอร์แลนด์ เป็นทีมที่เป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกมากสุดอันดับสอง (3สมัย 1974, 1978, 2010) เป็นรองเพียงเยอรมัน สำหรับฟุตบอลโลก 2022 นับเป็นการเข้าสู่รอบสุดท้ายครั้งแรกของ เนเธอร์แลนด์ นับตั้งแต่ปี 2014 แฟนบอลอัศวินสีส้ม ต่างคาดหวังให้ทีมชุดนี้ที่เต็มเป็นด้วยนักเตะพรสวรรค์สูงสร้างผลงานชิ้นโบ เข้าสู่รอบลึกๆได้ ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ผู้จัดการทีมมากประสบการณ์ ฮอลแลนด์น่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ไม่ยาก
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม A
# | ทีม |
1) | เนเธอร์แลนด์ |
2) | เซเนกัล |
3) | เอกวาดอร์ |
4) | กาตาร์ |
กลุ่ม B
ENGLAND
B1 : อังกฤษ
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม I (UEFA)
อันดับโลก : 5
ผู้จัดการทีม : แกเร็ธ เซาธ์เกต
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: อันดับ 4 (2018)
สตาร์ดัง : Harry Kane (Tottenham / England), Declan Rice (West Ham / England), Raheem Sterling (Chelsea / England),Jack Grealish (Man. City / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : แฮร์รี่ เคน กองหน้าระดับโลก ผู้ไม่เคยได้ชูโทรฟี่แชมป์ระดับเมเจอร์กับสโมสรและทีมชาติ แต่ด้วยตัวเลขการยิงประตูของเจ้าตัวที่สม่ำเสมอมา 8 ฤดูกาลหลังสุด คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือดาวยิงตัวความหวังของ “สิงโตคำราม”
นอกจากนี้ เคน มีลุ้นทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาตอังกฤษ โดยตามหลัง เวย์น รูนี่ย์ เพียง 3 ประตู (รูนี่ย์ 53ประตู , เคน 50ประตู) และอาจจะทำลายในการแข่งขันรายการนี้เลยก็ได้ สำหรับ แฮร์รี่ เคน ถูกตั้งราคา เป็นตัวเต็งผู้ชนะรองเท้าทองคำฟุตบอลโลก 2022 ด้วยอัตตราต่อรอง 7/1 (แทง 1 จ่าย 7 ไม่รวมทุน) ของเว็บไซต์ bet365
บทวิเคราะห์และทำนาย : ‘It’s coming home’??? ทีมชาติอังกฤษ ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 14 ครั้ง และการแข่งขันชิงแชมป์ยุโรปถึง 10 ครั้ง แต่คว้าแชมป์ระดับนานาชาติเพียงครั้งเดียว และนั่นต้องย้อนไปไกลถึงปี 1966 โดยตอนนั้นพวกเขาเอาชนะทีมชาติเยอรมนีตะวันตก 4-2
ทีมขวัญใจมหาชน สิงโตคำราม ในทุกยุกทุกสมัยมีนักเตะดาวดังล้นทีม แต่ไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้เป็นชิ้นเป็นสักเท่าไหร่ เมื่อปีที่ผ่านมาทำผลงานได้ดีในศึกยูโร 2020 โดยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแต่ต้องอกหักพ่ายจุดโทษ อิตาลี สำหรับฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด 2018 สามารถคว้าอันดับ 4 แต่นั่นคงไม่พอสำหรับแฟนบอลทีมชาติอังกฤษที่ต้องการเห็นทีมคว้าแชมป์นานาชาติครั้งแรกในรอบ 56 ปี! สำหรับทีมชาติอังกฤษ ภายใต้กุนซืออย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต เจองานค่อนข้างเบา อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ อิหร่าน,สหรัฐอเมริกา และเวลส์ คงผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ไม่ยาก ส่วนในรอบน็อคเอ้าท์คงจะได้ลุ้นกันยาวๆ
IRAN
B2 : อิหร่าน
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม A (AFC)
อันดับโลก : 21
ผู้จัดการทีม : ดราแกน สโกซิช
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง : Sardar Azmoun (Bayer Leverkusen / Germany), Alireza Jahanbakhsh (Feyenoord / Netherlands), Mehdi Taremi (Porto / Portugal)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : อลิเรซ่า ยาฮานบาคช์ กัปตันทีมชาติอิหร่านของสโมสร เฟเยนูร์ด ในลีกเนเธอร์แลนด์ ค้าแข้งในลีกใหญ่ยุโรปหลายปี แฟนบอล “นักรบแห่งเปอร์เซีย” คงต้องฝากความหวังกับหัวหอกรายนี้
บทวิเคราะห์และทำนาย : อิหร่าน เป็นชาติแรกของเอเชียที่ตีตั๋วลุยฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นไปแล้ว 6 ครั้ง (1978, 1998, 2006, 2014, 2018 และ 2022) แต่ไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่ม สามารถคว้าชัยในเวทีนี้เพียงสองนัด โดยชนะสหรัฐอเมริกาในปี 1998 และ โมร็อกโกในปี 2018 หากจะบอกว่าทัพนักรบแห่งเปอร์เซีย เป็นพียงไม้ประดับรายการคงไม่ผิด ถึงจะเคยกวาดแชมป์ระดับทวีปมากมาย แต่ยังเป็นเรื่องยากสำหรับ อิหร่านที่จะผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์
USA
B3 : สหรัฐอเมริกา
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 3 (CONCACAF)
อันดับโลก : 15
ผู้จัดการทีม : เกร็กก์ เบอร์ฮอลเตอร์
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2014)
สตาร์ดัง : Christian Pulisic (Chelsea / England), Gio Reyna (Borussia Dortmund / Germany), Weston McKennie (Juventus / Italy)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : คริสเตียน พูลิซิช เป็นหนึ่งในผู้เล่นชั้นนำที่น่าจับตามองในฟุตบอลโลกกาตาร์ ลงเล่นในบุนเดสลีกาทั้งสิ้น 90 นัดและในพรีเมียร์ลีก 72 นัด ถึงแม้ปัจจุบันพูลิซิซ ไม่ได้เป็นตัวหลักของ เชลซี แต่สำหรับชาว อเมริกัน แล้ว เขาคือ ‘เลอบรอน เจมส์’ ของโลก Soccer!
บทวิเคราะห์และทำนาย :สหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก 10 ครั้ง ตั้งแต่ปี 1930 โดยปีนั้น สหรัฐ ได้อันดับที่ 3 ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาจนถึงปัจจุบัน สหรัฐอเมริกา เจ้าของแชมป์คอนคาเคฟโกลด์คัพ 7 สมัย 1991, 2002, 2005, 2007, 2013, 2017 และเมื่อปีล่าสุด 2021 หากดูจากชื่อชั้นบรรดาทีมในกลุ่ม B อังกฤษ ทีมชั้นนำจากยุโรป เป็นทีมเต็งที่จะได้ผ่านเข้ารอบ ในขณะที่ สหรัฐอเมริกา,อิหร่าน และ เวลส์ ชื่อชั้นทั้งสามทีมนี้ไม่ห่างกันมาก มองว่าทั้ง 3 ทีม มีโอกาสทำเซอร์ไพรส์ผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าท์
WALES
B4 : เวลส์
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะเพลย์ออฟ สาย A (UEFA)
อันดับโลก : 18
ผู้จัดการทีม : ร็อบ เพจ
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบก่อนรองชนะเลิศ (1958)
สตาร์ดัง :Gareth Bale (Los Angeles FC / USA), Daniel James (Leeds United / England), Kieffer Moore (Bournemouth / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : แกเร็ธ เบล “โปรกอล์ฟที่เตะบอลได้นิดหน่อย” ! แต่ ถ้าจะบอกว่า เขาคือสุดยอดนักเตะตลอดกาลของเวลส์ ก็ไม่ผิด เบล ประสบความสำเร็จอย่างมากในระดับสโมสร กับ เรอัล มาดริด อีกทั้งยังเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติเวลส์ที่ 40 ประตู
สำหรับ เบล ในวัย 33 ปี เป็น ‘เดอะแบก’ ของทีมชาติเวลส์ในช่วงหลัง และนี่อาจเป็นฟุตบอลโลกครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายของเจ้าตัว
บทวิเคราะห์และทำนาย : เวลส์ คว้าตั๋วลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกครั้งในรอบถึง 64 ปีเลยทีเดียว หลังจากเคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกเมื่อปี 1958 หลังเอาชนะ ยูเครน 1-0 ในรอบคัดเลือกรอบเพลย์ออฟ รอบชิงชนะเลิศของสายเอ
เวลส์ อยู่ในกลุ่มบีร่วมกับอังกฤษ, อิหร่าน และสหรัฐอเมริกา ถึงแม้จะเข้ารอบสุดท้ายได้จากการเตะเพลย์ออฟ แต่โดยศักภาพของทีมชุดนี้ ที่สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ ยูโร 2020 สำหรับฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาก็น่าจะดีพอที่จะแย่งอันดับสองของกลุ่มบีกับสหรัฐอเมริกา
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม B
# | ทีม |
1) | อังกฤษ |
2) | สหรัฐอเมริกา |
3) | อิหร่าน |
4) | เวลส์ |
กลุ่ม C
ARGENTINA
C1 : อาร์เจนตินา
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 2 (CONMEBOL)
อันดับโลก : 4
ผู้จัดการทีม : ลิโอเนล สกาโลนี่
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย(2018)
สตาร์ดัง :Lionel Messi (Paris Saint-Germain / France), Angel Di Maria (Paris Saint-Germain / France), Lautaro Martínez (Inter Milan / Italy)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ลิโอเนล เมสซี่ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 6สมัย ลงเล่นให้ อาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้ว 4 สมัย สำหรับฟุตบอลโลก 2022 นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายของ เมสซี่ ที่ปัจจุบันอายุ 34 ปี
ถึงแม้จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา สำเร็จแล้ว แต่สำหรับแฟน ฟ้าขาว บางกลุ่ม นั่นอาจจะไม่เพียงที่จะทำให้ชื่อเมสซี่ ขึ้นมาเทียบเท่ากับ ดิเอโก มาราโดนา ตำนานหัตถ์พระเจ้าที่คว้าแชมป์โลกไปแล้ว 2 ครั้ง
บทวิเคราะห์และทำนาย : อาร์เจนตินา ที่เพิ่งคว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2021 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 ในฐานะรองแชมป์ของรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ CONMEBOL ถึงแม้จะพลาดแชมป์กลุ่มรอบคัดเลือกให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บราซิล แต่ขุนพล “ฟ้า-ขาว” ทำผลงานในรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะ 11 เสมอ 6 จาก 17 แมตช์ นอกจากนี้พวกเขายังทำสถิติไร้พ่ายติดต่อกันเป็นนัดที่ 32 อีกด้วย โดยไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2019 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 4 ของโลก เหลืออีกเพียง 5 เกมก็จะแซง อิตาลี ที่เพิ่งทำได้เมื่อปี 2021 หลังคว้าแชมป์ยูโร 2020
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับ “ฟ้า-ขาว” อาร์เจนติน่า ที่จะทำลายสถิติไร้พ่ายของ อิตาลี พวกเขาจำเป็นต้องชนะรวดถึงรอบรองชนะเลิศของฟุตบอลโลกปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญของลูกทีม ลิโอเนล สกาโลนี่ ที่จะคว้าชัยนัดต่อนัด บวกขุมกำลังสุดแกร่งของทีมชุดนี้ พวกเขามีสิทธิ์เข้ารอบลึกๆได้ และอาจจะไปถึงรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง หลังต้องอกหักพลาดแชมป์ครั้งที่ 3 ให้กับเยอรมัน ในปี 2014
SAUDI ARABIA
C2 : ซาอุดีอาระเบีย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม B (AFC)
อันดับโลก : 49
ผู้จัดการทีม : แอร์เว่ เรนาร์ด
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง :Saleh Al Shehri (Al Hilal / Saudi Arabia), Salem Al Dawsari (Al Hilal / Saudi Arabia), Salman Al Faraj (Al Hilal / Saudi Arabia)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : Salem Al Dawsari ปีกตัวเก่งของสโมสร อัล ฮิลาล เคยค้าแข้งในลาลีกา สเปน กับ บียาร์เรอัล โดยลงสนามให้ “เรือดำน้ำสีเหลือง” 1 นัด Salem ชื่อนี้น่าจะการันตี 11ตัวจริงของทีม แอร์เว่ เรนาร์ด เขาเป็นตัวสำคัญของทีม มีจุดเด่นคือการสร้างสรรค์เกมบุก และมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม
บทวิเคราะห์และทำนาย : ซาอุดิอาระเบีย เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในทวีปเอเชีย โดยชนะเอเชียน คัพ 3 ครั้ง 1984, 1988 และ 1996 นอกจากนี้ พวกเขายังผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกถึง 6 ครั้ง 1994, 1998, 2002, 2006, 2018 และ 2022 สามารถเข้ารอบน็อคเอ้าท์ ได้หนึ่งครั้งเมื่อปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา
ซาอุดิอาระเบีย ทำผลงานในรอบคัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยม ลิ่วบอลโลก 2022 ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม บี เหนือญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ในรอบคัดเลือกโซนเอเชีย อย่างไรก็ตาม ซาอุ ถูกจับฉลากอยู่กลุ่มเดียวกับ อาร์เจนติน่า, เม็กซิโก และโปแลนด์ ถือว่าเป็นงานช้างเลยทีเดียวสำหรับลูกทีมของ แอร์เว่ เรนาร์ด คงเป็นอีกครั้งที่ ซาอุ จอดป้ายแบ่งกลุ่ม
MEXICO
C3 : เม็กซิโก
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 2 (CONCACAF)
อันดับโลก : 9
ผู้จัดการทีม : เคราโด้ มาร์ติโน่
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง :Raul Jimenez (Wolves / England), Jesus Corona (Sevilla / Spain), Edson Álvarez (Ajax / Netherlands)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ราอุล ฆิเมเนซ กองหน้าวูล์ฟแฮมป์ตัน เคยทำผลงานดีที่สุด ยิง 17ประตู ในเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2019-20 ก่อนที่ฤดูกาลถัดมา ฆิเมเนซ ต้องเจอกับอาการบาดเจ็บหนักกะโหลกร้าว ต้องพักรักษาตัวนาน 8 เดือน
ถึงแม้กองหน้าวัย 31 ยังกลับมาสู่ฟอร์มเก่งไม่ได้ก็ตามที การที่ไม่มีดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอย่าง ชิชาริโต้ ซึ่งไม่อยู่ในแผนของ เคราโด้ มาร์ติโน่ เม็กซิโก คงต้องฝากความหวังไว้กับ ฆิเมเนซ ให้เค้นฟอร์มเก่งเพื่อผลิตสกอร์ให้กับ ทัพ “El Tricolor”
บทวิเคราะห์และทำนาย : เม็กซิโก เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแล้วทั้งสิ้น 17ครั้ง เป็นรองเพียง บราซิล, เยอรมนี, อิตาลี และอาร์เจนตินา ผลงานดีสุดในทัวร์นาเมนต์นี้ คือการไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในฟุตบอลโลกปี 1970 และ 1986 ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นเม็กซิโกเป็นเจ้าภาพ
เม็กซิโก ค่อนข้างมีประสบการณ์ในรายการนี้ โดย 8 ครั้งหลังสุดสามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทุกครั้ง สำหรับฟุตบอลโลกคราวนี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือมากประสบการณ์อย่าง เคราโด้ มาร์ติโน่ น่าจะพาทีมเข้ารอบ 16 สุดท้ายได้ตามเคย
POLAND
C4 : โปแลนด์
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะเพลย์ออฟ สาย B (UEFA)
อันดับโลก : 26
ผู้จัดการทีม : เชสวัฟ มิคช์เยวิช
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม(2018)
สตาร์ดัง :Robert Lewandowski (Bayern Munich / Germany), Piotr Zielinski (Napoli / Italy), Matty Cash (Aston Villa / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่งที่พึ่งย้ายซบ บาร์เซโลน่า มีตัวเลขการทำประตูสุดโหด ซึ่งยิงไปแล้ว 76 ประตูจาก 132 นัด ให้กับทีมชาติโปแลนด์ (สถิติสูงสุดตลอดกาล) แฟนบอลชาวโปแลนด์คงต้องฝากความหวังไว้กับกองหน้าวัย 33 ปีรายนี้ หากโปแลนด์สามารถเข้าสู่รอบลึกๆได้ ฝีเท้าระดับ เลวานดอฟสกี้คงจะมีลุ้นรองเท้าทองคำเช่นเดียวกัน
บทวิเคราะห์และทำนาย :โปแลนด์ เข้ารอบสุดท้ายแล้วถึง 8 ครั้ง ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา ต้องย้อนไปเมื่อปี 1974 และ 1982 ซึ่งทั้งสองครั้งนั้นโปแลนด์จบอันดับ 3
โปแลนด์ตีตั๋วไปกาตาร์ หลังจากเอาชนะสวีเดน 2-0 ในรอบเพลย์ออฟรอบสอง โซน ยุโรป เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ คาดว่าพวกเขามีโอกาสลุ้นอันดับสองของรอบแบ่งกลุ่ม โดยที่ต้องแย่งชิงกับทาง เม็กซิโก
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม A
# | ทีม |
1) | อาร์เจนตินา |
2) | เม็กซิโก |
3) | โปแลนด์ |
4) | ซาอุดีอาระเบีย |
กลุ่ม D
FRANCE
D1 : ฝรั่งเศส
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม D (UEFA)
อันดับโลก : 3
ผู้จัดการทีม : ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: แชมป์ (2018)
สตาร์ดัง :Kylian Mbappe (Paris Saint-Germain / France), Paul Pogba (Juventus / Italy), Karim Benzema (Real Madrid / Spain)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : คีย์แมนคนสำคัญของฝรั่งเศสสำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ขอเลือก คาริม เบนเซม่า ตัวเต็งผู้ชนะบัลลงดอร์ ประจำปี 2022 ปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเจ้าตัวอีกด้วย ซึ่งทำไป 47 ประตูรวมทุกรายการ พามาดริดคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ลาลีกา และ ซูเปร์ โกปา
น่าเสียดายที่ดาวยิงวัย 34 ไม่ได้อยู่ในชุดแชมป์ปี 2018 ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งกลับมามีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งในศึก ยูโร 2020 ที่ผ่านมา หลังเคยถูกตัดชื่อนับตั้งแต่โดนดึงเข้าไปพัวพันกับคดี “เซ็กซ์เทป” เมื่อปี 2015 แน่นอนว่าฟุตบอลโลกที่กาตาร์ปลายปีนี้ เบนเซม่า น่าจะมีความตั้งใจเป็นพิเศษบวกกับฟอร์มปัจจุบันที่สุดโหด เจ้าตัวน่าจะมีลุ้นคว้ารองเท้าคำอย่างแน่นอน
บทวิเคราะห์และทำนาย : แชมป์โลกครั้งล่าสุด ฝรั่งเศส เป็นทีมที่เต็มไปด้วยสตาร์ดัง ฉลุยเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้อย่างง่ายได้ เป็นแชมป์รอบคัดเลือกกลุ่ม D จากผลงานไร้พ่าย ชนะ 5 เสมอ 3 แต่ต้องไม่ลืมว่า ลูกทีม ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ทำผลงานได้น่าผิดหวังในการแข่งขัน ยูโร 2020 หลังพลาดท่าพ่าย สวิสเซอร์แลนด์ ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งๆที่เป็นเต็งแชมป์ตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์
นอกจากนี้ ฟุตบอลโลกมักจะมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นเสมอ อาทิเช่น อาถรรพ์แชมป์เก่าตกรอบแรก ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 5 ครั้ง โดยหนึ่งในนั้น เกิดขึ้นกับทัพ “ตราไก่” เอง ที่คว้าแชมป์ได้ในแผ่นดินตัวเองเมื่อ 1998 แต่ 4 ปีถัดมา กลับตกรอบแรกแบบสุดช็อค อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสชุดปัจจุบันที่มีนักเตะตัวท็อปของโลกเกือบทุกตำแหน่ง บวกกับการที่ได้เล่นร่วมกันเป็นเวลานานพอสมควร ทางเรามองว่า อาถรรพ์แชมป์เก่าคงไม่เกิดขึ้นกับฝรั่งเศษชุดนี้ แต่พวกเขาจะสามารถป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ เราจะได้รู้พร้อมๆกันปลายปีนี้
AUSTRALIA
D2 : ออสเตรเลีย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะเพลย์ออฟระหว่างทวีป (AFC-CONMEBOL)
อันดับโลก : 42
ผู้จัดการทีม : เกรแฮม อาร์โนลด์
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง :Mat Ryan (Real Sociedad / Spain), Aaron Mooy (Celtic / Scotland), Trent Sainsbury (Kortrijk / Belgium)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : อารอน มอย จอมทัพทีมชาติออสเตรเลียเพิ่งย้ายรวมทีม แชมป์สกอตติช พรีเมียร์ชิพ เซลติก กองกลางวัย 31 เคยมีประสบการณ์ในลีกอังกฤษกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ก่อนย้ายไปร่วมทีม เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี สำหรับ มอย ลงเล่นให้กับทัพ ซอคเกอรูส์ ไปแล้ว 52 นัด ทำ 8 ประตู ประสบกาณ์ของเขาน่าจะช่วยทีมได้เยอะเลยทีเดียว
บทวิเคราะห์และทำนาย : ออสเตรเลีย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากการชนะการดวลจุดโทษ เปรู 5-4 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ในศึก อินเตอร์คอนติเนนทัล รอบเพลย์ออฟ คว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์
ออสเตรเลีย เหมือนจะถูกโฉลก กับ ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก เพราะฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด ที่รัสเซีย พวกเขาก็ถูกจับฉลากอยู่กลุ่ม C ร่วมกับ ฝรั่งเศส(แชมป์ 2018) และเดนมาร์ก ซึ่งทั้งสองทีมจากยุโรปก็กอดคอกันผ่านเข้ารอบ 16 ทีม ส่วนออสซี่ จบบ๊วยของรอบแบ่งกลุ่มในครั้งนั้น ที่กาตาร์ครั้งนี้ทัพ ซอคเกอรูส์ อยู่กลุ่ม ดี ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, เดนมาร์ก , และ ตูนิเซีย ถือว่างานหินเลยทีเดียว ทางเรา ออสซี่ไม่น่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้
DENMARK
D3 : เดนมาร์ก
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม F (UEFA)
อันดับโลก : 11
ผู้จัดการทีม : แคสเปอร์ ฮูลมานด์
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง :Christian Eriksen (Man. Utd / England), Joakim Maehle (Atalanta / Italy), Mikkel Damsgaard (Brentford / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : มิคเกล ดามส์การ์ด เด็กมหัศจรรย์เดนมาร์ก มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในศึกยูโร 2020 หลังถูกมอบบทบาทในการสร้างสรรค์เกมแทนที่ของจอมทัพเบอร์หนึ่งอย่างอีริกเซน
และเขาก็กลายเป็นนักเตะดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของยูโร 2020 กองกลางวัย 22 จะกลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญสำหรับทัพโคนม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้แน่นอน
บทวิเคราะห์และทำนาย : เดนมาร์ก เป็นชาติที่สองที่ได้เข้ารอบสุดท้ายต่อจาก เยอรมัน (ไม่นับรวมเจ้าภาพ) มีฟอร์มอันยอดเยี่ยม เป็นแชมป์กลุ่มเอฟ ของรอบคัดเลือกโซนยุโรป ต่อเนื่องด้วยฟอร์มแกร่งของ “โคนม” ในศึกยูโร เมื่อปลายปีที่ผ่านมาที่สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิกก่อนพ่ายอังกฤษ 1-2
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำหรับลูกทีมของ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ หลังเดนมาร์กเคยคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวในปี 1992 สำหรับเดนมาร์กทีมชุดนี้เล่นสนุก และมีสปิริตนักสู้เต็มเปี่ยม เป็นชาติเล็กๆที่น่าจับตามองที่สุดสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ พวกเขาน่าจะจับมือ ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์และมีโอกาสสูงที่จะสร้างเซอร์ไพร์สอีกครั้ง!
TUNISIA
D4 : ตูนิเซีย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบสามของ (CAF)
อันดับโลก : 35
ผู้จัดการทีม : Jalel Kadri
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง :Wahbi Khazri (Montpellier / France), Hannibal Mejbri (Manchester United / England), Ali Maaloul (Al Ahly / Egypt)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : วาห์บี คาซรี่ กองกลางตัวรุกมากปราสบการณ์ที่ปัจจุบันค้าแข้งในลีกเอิง ฝรั่งเศส กับมงต์เปลลิเย่ร์ ลงเล่นให้ทีมชาติตูนิเซีย 64 ยิงไปแล้ว 29 ประตู เป็นตัวรุกความหวังของทีมชาติตูนิเซียที่จะช่วยทีมเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ของฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์
บทวิเคราะห์และทำนาย : ตูนิเซียผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 หลังจากเสมอ 0-0 ที่บ้านกับ มาลี ก่อนที่บุกไปคว้าชัยที่บ้านของมาลี 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกรอบสาม โซนแอฟรีกา ทำให้พวกเค้าคว้าตัวไปกาตาร์ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ดูจากชื่อชั้นของกลุ่ม D ตูนิเซีย คงจะต่อกรกับทีมชั้นนำยุโรปได้ยาก ฝรั่งเศส และเดนมาร์ก คาดว่าน่าจะการันตีการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม D
# | ทีม |
1) | เดนมาร์ก |
2) | ฝรั่งเศส |
3) | ตูนิเซีย |
4) | ออสเตรเลีย |
SPAIN
E1 : สเปน
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม B (UEFA)
อันดับโลก : 7
ผู้จัดการทีม : หลุยส์ เอ็นริเก้
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง :Pedri (Barcelona / Spain), Rodri (Man. City / England), Aymeric Laporte (Man. City / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : เปดรี้ กองกลางอนาคตไกลของบาร์เซโลน่า ผู้คว้ารางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของยุโรป หรือ “โกลเด้น บอย อวอร์ด” ประจำปี 2021 ในวัยเพียง 19 ปี เปดรี้ กลายเป็นตัวหลักของสโมสร และทีมชาติ ในช่วงระหว่างปี 2020-2021 ที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวลงเล่นต่อเนื่องทั้งกับ บาร์เซโลน่า, ทีมชาติสเปนชุดใหญ่ในยูโร 2020 และทีมชาติสเปนชุดโอลิมปิก 2020 รวมทั้งสิ้น 73 นัด ทำได้ 4 ประตู
แน่นอนฟอร์มสุดแจ่มของเขาในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติที่ผ่านมา หลุยส์ เอ็นริเก้ คงไว้ใจเปดรี้ลงเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง และเขาน่าจะถูกจับตามองเป็นพิเศษอย่างแน่นอนสำหรับฟุตบอลโลก 2022
บทวิเคราะห์และทำนาย : “กระทิงดุ” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม B ด้วยผลงาน ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 1 โดยอดีตแชมป์เมื่อปี 2010 ต้องโคจรมาพบกับอดีตแชมป์ 4 สมัยอย่างเยอรมัน ส่วนอีกสองทีมเป็น ญี่ปุ่น และคอสตาริก้า สำหรับสเปนสายเลือดใหม่ชุดนี้ ที่เต็มไปด้วยดาวโรจน์ คาดว่าจะจูงมือเยอรมันเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ อยู่ที่ว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม E
COSTA RICA
E2 : คอสตาริก้า
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป (CONCACAF-OFC)
อันดับโลก : 31
ผู้จัดการทีม : หลุยส์ เฟอร์นานโด ซัวเรซ
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบก่อนรองชนะเลิศ (2014)
สตาร์ดัง :Keylor Navas (Paris Saint-Germain / France), Bryan Ruiz (Alajuelense / Costa Rica), Joel Campbell (Monterrey / Mexico)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารจอมหนึบจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่กวาดแชมป์ในยุโรปกับต้นสังกัดเก่าอย่าง เรอัล มาดริด มามากมายนับไม่ถ้วน ย้อนเวลากลับไปในศึกฟุตบอลโลก 2014 เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เจ้าตัวแจ้งเกิดได้อย่างโดดเด่น สำหรับฟุตบอลโลก 2022 นาบาสพร้อมยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายให้แฟนบอล “กล้วยหอม” ได้อุ่นใจ และหวังว่าจะสามารถช่วยทีมสร้างเซอร์ไพร์สอีกครั้ง
บทวิเคราะห์ทำนาย : คอสตาริก้า เป็นทีมสุดท้ายที่คว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย หลังจากเฉือนชนะ นิวซีแลนด์ ในเกมเพลย์ออฟ ระหว่างทวีป คอนคาเคฟ-โอเชเนีย
“กล้วยหอม” ทีมชาติคอสตาริก้า เคยสวมบทม้ามืดทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกมาแล้ว เมื่อ 8 ปีก่อน ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตาม โอกาสของพวกเขาที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปสำหรับฟุตบอลโลกหนนี้ ดูมืดมนเหลือเกิน เนื่องจากต้องอยู่กลุ่มเดียวกับ สเปน และ เยอรมัน
GERMANY
E3 : เยอรมัน
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม J (UEFA)
อันดับโลก : 12
ผู้จัดการทีม : ฮันซี่ ฟลิค
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018), แชมป์ (2014)
สตาร์ดัง :Manuel Neuer (Bayern Munich / Germany), Kai Havertz (Chelsea / England), Serge Gnabry (Bayern Munich / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : แซร์จ กนาบรี้ กองหน้าบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงตัวความหวังของทีม “อินทรีเหล็ก” ฟอร์มโดดเด่นกับต้นสังกัด ทำไป 14 ประตูในลีก กลายเป็นดาวซัลโวชาวเยอรมันใน บุนเดสลีกา 2021-22 นอกจากนี้ปีกวัย 26 ปี ยังทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก กับทีมชาติเยอรมัน โดยลงสนาม 8 นัด ยิงได้ 5 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์
บทวิเคราะห์และทำนาย : ถึงแม้ปัจจุบัน อันดับฟีฟ่าของทีมชาติ เยอรมัน จะหล่นไปอยู่อันดับ 12 ของโลก แต่ขึ้นชื่อว่า “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน ย่อมเป็นทีมที่มีความน่ากลัวในทุกฉบับของฟุตบอลโลก ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะ แชมป์ J ด้วยฟอร์มสุดแกร่ง ชนะ 9 แพ้ 1
อดีตแชมป์เมื่อปี 2014 แต่ถัดมา 4 ปี ต้องอกหักตกรอบแรกสุดช็อค ส่วนในทัวร์นาเมนต์ล่าสุด ยูโร 2020 เยอรมัน จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตามฟุตบอลโลก กาตาร์ ปลายปีนี้ “อินทรีเหล็ก” ที่อยู่กลุ่มร่วมกับ “กระทิงดุ” เป็นสองทีมเต็งจ๋าที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
JAPAN
E4 : ญี่ปุ่น
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 2 กลุ่ม B (AFC)
อันดับโลก : 23
ผู้จัดการทีม : ฮาจิเมะ โมริยาสุ
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง : Daichi Kamada (Eintracht Frankfurt / Germany),Takumi Minamino (Monaco / France), Takehiro Tomiyasu (Arsenal / England), Maya Yoshida (Sampdoria / Italy)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ปัจจุบันนี้มีนักเตะชาวญี่ปุ่นค้าแข้งอยู่ในลีกชั้นนำของยุโรปหลายราย อีกทั้งยังมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จคว้าถ้วยรางวัลกับต้นสังกัด อาทิเช่น ไดจิ คามาดะ ที่ฤดูกาลล่าสุดพึ่งคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก กับไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต
เพลย์เมคเกอร์วัย 26 ถูกแฟร้งเฟิร์ต ดึงตัวมาร่วมทีม ตั้งแต่ปี 2017 ในฤดูกาล 2019-2020 คามาดะ พัฒนาจนได้รับโอกาสเป็นตัวจริงของ แฟร้งค์เฟิร์ต ตั้งแต่นั้นมา อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ ทาคุมิ มินามิโนะ อดีตแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ที่ช่วยอดีตต้นสังกัดของเขาคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ และเอฟเอคัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองรายการนี้เจ้าตัวเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมอีกด้วย (เอฟเอคัพ 3 ประตูจาก 4 เกม,คาราบาวคัพ 4 ประตูจาก 5 เกม)
บทวิเคราะห์และทำนาย : ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ จะเป็นการเข้าร่วมครั้งที่ 7 ของทีมชาติญี่ปุน ขุนผลซามูไร ผ่านเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกในปี 1994 และไม่เคยพลาดทุกฉบับของรอบสุดท้ายตั้งแต่นั้นมา
ญี่ปุ่นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 3 ครั้ง: บนแผ่นดินตัวเองในปี 2002 ในแอฟริกาใต้ในปี 2010 และครั้งล่าในรัสเซียในปี 2018 เป็นทีมประสบความสำเร็จมากมายในระดับทวีป แต่น่าเสียดายสำหรับลูกทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ที่ถูกจับอยู่ใน ‘กรุ๊ป ออฟ เดธ’ ที่ประกอบด้วย สเปน,เยอรมัน และ คอสตาริก้า มีโอกาสสูงมากที่ทัพซามูไร จะจอดป้ายเพียงแค่รอบแรก
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม E
# | ทีม |
1) | สเปน |
2) | เยอรมนี |
3) | ญี่ปุ่น |
4) | คอสตาริกา |
BELGIUM
F1 : เบลเยียม
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม E (UEFA)
อันดับโลก : 2
ผู้จัดการทีม : โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: อันดับ 3 (2018)
สตาร์ดัง : Kevin De Bryune (Manchester City / England), Romelu Lukaku (Inter Milan / Italy), Eden Hazard (Real Madrid / Spain)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : เควิน เดอ บรอยน์ สุดยอดกองกลางแห่งยุคของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พาทีมกวาดแชมป์นับไม่ถ้วน แต่ใครจะเชื่อว่าเขาไม่เคยคว้าแชมป์ระดับนานาชาติกับทีมชาติเบลเยียม
เมื่อฤดูกาลที่ผ่าน เป็นอีกฤดูกาลที่ เพลย์เมคเกอร์รายนี้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผลงาน 15 ประตู 8 แอสซิสต์ ให้กับ “เรือใบสีฟ้า” ในพรีเมียร์ลีก จะถูกต่อยอดไปถึงฟุตบอลโลก 2022 และอาจจะพาขุนพล“ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ไปถึงฝัน
บทวิเคราะห์และทำนาย : ฟุตบอลโลก 2022 อาจเป็นทัวร์นาเมนต์ครั้งสุดท้ายของ “Golden Generation” หรือ ยุคทองของทีมชาติเบลเยียม ซึ่งเต็มไปด้วยแข้งระดับซูเปอร์สตาร์ เคยขยับขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลกจากการจัดอันดับโลกฟีฟ่า มาระยะใหญ่ๆ , เป็นตัวเต็งทุกรายการที่ลงแข่งขัน แต่ทว่า ทีมชุดนี้ยังไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยสักรายการ
เอเด็น อาซาร์,เควิน เดอ บรอยน์,โรเมลู ลูกากู และอีกหลายๆคนในทีมชุดนี้เริ่มโรยรา เริ่มเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของชีวิตการค้าแข้ง อย่างไรก็ดี “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ที่อยู่กลุ่ม F ประกอบด้วย แคนาดา,โมร็อกโก และโครเอเชีย ทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ คือเต็งจ๋าที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป แต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายอาจไม่เพียงพอ เพราะพวกเขาต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขาเหมาะสมกับหมายเลขอันดับ 1 ของโลกในช่วงหลังหรือไม่
CANADA
F2 : แคนาดา
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม (CONCACAF)
อันดับโลก : 38
ผู้จัดการทีม : จอห์น เฮิร์ดแมน
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง : Jonathan David (Lille / France), Junior Hoilett (Reading / England), Alphonso Davies (Bayern Munich / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : อัลฟอนโซ่ เดวีส์ แบ็กซ้ายตีนจรวดของ บาเยิร์น มิวนิค เป็นหนึ่งในนักเตะชาวแคนาเดียน เพียงไม่กี่คนที่ค้าแข้งในลีกใหญ่ของยุโรป เดวีส์ ในวัย 21 เป็นตัวหลักของ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค 3 ฤดูกาลหลัง และคว้าถ้วยรางวัลกับยักษ์ใหญ่เยอรมันมากมาย รวมถึงแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2019-20
นอกจากตำแหน่งฟูลแบ็ก เดวีส์ ยังเป็นนักเตะที่เล่นได้สารพัดประโยชน์ เขาเป็นกำลังหลักของทีมชาติ แคนาดา ซึ่งสามารถเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและกลางตัวรุก
บทวิเคราะห์และทำนาย : แคนาดา ทำผลงานในรอบคัดเลือด โซนคอนคาเคฟ ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผลงาน ชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 2 เป็นแชมป์กลุ่ม เหนือ เม็กซิโก และ สหรัฐอเมริการ คว้าตั๋วไปลุยศึกเวิลด์คัพ รอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ศึกเวิลด์คัพ 1986 ที่เม็กซิโก
สำหรับ แคนาดา ภายใต้กุนซือหนุ่ม จอห์น เฮิร์ดแมน กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดๆ ทางเรามองว่า พวกเขามีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์เบียด โครเอเชีย คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม เอฟ ได้เหมือนกัน
MOROCCO
F3 : โมร็อกโก
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบสาม (CAF)
อันดับโลก : 24
ผู้จัดการทีม : วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช(พึ่งโดนปลดพ้นตำแหน่งเฮดโค้ช เมื่อ 12 ส.ค ที่ผ่านมา)
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง :Sofaine Boufal (Angers / France), Achraf Hakimi (Paris Saint-Germain / France), Ayoub Al Kaabi (Hatayspor / Turkey)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : อัชราฟ ฮาคิมี่ แบ็คขวาความเร็วสูงของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ถูกยกให้เป็นหนึ่งในแบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก ในวัยเพียง 23 ปี แต่ ฮาคิมี่ ประสบความสำเร็จอย่างมากในอาชีพการค้าแข้ง ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เคยเล่นกับสโมสรใหญ่ในยุโรป เช่น เรอัล มาดริด (สเปน), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) ,อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) และปัจจุบันกับ เปแอสเช (ฝรั่งเศส) แน่นอนว่า ฮาคิมี่ จะเป็นความหวังสำคัญของแฟนบอลโมร็อกโกทั้งชาติในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ ฮาลิลฮ็อดซิช อดีตผู้จัดการทีม โมร็อกโก ที่เคยมีปัญหากับ ฮาคิม ซิเย็ค สตาร์ดังของทีมมาตลอด จนถึงขั้นดาวเตะจาก เชลซี ประกาศเลิกเล่นให้ทีมชาติ แต่หลังจาก สมาคมฟุตบอล โมร็อคโก ประกาศว่าได้ปลด วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช ออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช นั่นอาจจะทำให้ ฮาคิม ซิเย็ค แนวรุกของเชลซี ตัดสินใจคัมแบ็ครับใช้ทีมชาติ ถ้าเป็นเช่นนั้น ซิเย็ค ที่มีอิทธิพลต่อทีมชาติสูง จะกลับมาเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญให้กับโมร็อกโกอีกครั้ง
บทวิเคราะห์และทำนาย :ทีมชาติโมร็อกโกเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 6 ผลงานที่ดีที่สุดเกิดขึ้นในปี 1986 เมื่อขุนพล “สิงโตแอตลาส” กลายเป็นทีมชาติแอฟริกันทีมแรก และทีมเดียวที่เป็นแชมป์กลุ่มของรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก กลุ่ม F ของฟุตบอลโลกปี 1986 โมร็อกโก จบอันดับหนึ่งเหนืออังกฤษ โปรตุเกส และโปแลนด์ ด้วยผลงาน เสมอโปแลนด์และอังกฤษ และเอาชนะโปรตุเกส 3-1
โมร็อกโก โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก ส่วนในทัวร์นาเมนต์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ จอดป้ายเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าค่อนข้างผิดฟอร์ม อย่างไรก็ตามศักยภาพของโมร็อกโก ดูเป็นรอง 2 ทีมเต็งของกลุ่ม เอฟ อย่าง เบลเยียม และโครเอเชียมากเลยทีเดียว มีโอกาสตกรอบแรกสูง
CROATIA
F4 : โครเอเชีย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม H (UEFA)
อันดับโลก : 16
ผู้จัดการทีม : ซลัตโก้ ดาลิช
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รองแชมป์ (2018)
สตาร์ดัง : Luka Modric (Real Madrid / Spain), Ivan Perisic (Tottenham / England), Mario Brozovic (Inter Milan / Italy)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ลูก้า โมดริช จอมทัพราชันชุดขาว ผู้หยุดความยิ่งใหญ่ของ คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี หลังคว้ารางวัลบัลลงดอร์ปี 2018 ถึงแม้ปัจจุบัน โมดริช จะอายุอานามจะปาเข้าไป 36 ปีแล้ว แต่คุณภาพยังคงคับแก้ว พร้อมนำทัพลุยกาตาร์ ซึ่งฟุตบอลโลกหนนี้ มีโอกาศสูงที่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเจ้าตัว
บทวิเคราะห์และทำนาย : ทัพ “ตาหมากรุก” ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้แบบหักปากกาเซียน ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขา ซึ่งในรอบแบ่งกลุ่มของ กลุ่ม D พวกเขาสามารถเอาชนะทีมเต็งอย่างอาร์เจนติน่าขาดลอย 3-0 และ ในรอบรองชนะเลิศเอาชนะทีมแกร่งอย่างอังกฤษ 2-1 ฟุตบอลโลกหนนี้ พวกเขามาในฐานะดีกรีรองแชมป์เก่า ทำให้แฟนบอลคงไม่ได้มองโครเอเชียในฐานะทีมม้ามืดอีกต่อไป
ต้องยอมรับว่า โครเอเชีย เป็นหนึ่งในทีมที่มีขุมกำลังดีที่สุดของยุโรปในขณะนี้ ที่ประกอบด้วยนักเตะประสบการณ์สูงระดับโลก เช่น ลูก้า โมดริช,มาเตโอ โควาซิช,มาริโอ โบรโซวิช และอีวาน เปริซิช หรือดาวรุ่งที่เริ่มสร้างชื่ออย่าง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ มาริโอ วุสโควิช พร้อมรับใช้ชาติและพาโครเอเชียไปถึงฝั่งฝันอีกครั้ง
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม F
# | ทีม |
1) | เบลเยียม |
2) | โครเอเชีย |
3) | แคนาดา |
4) | โมร็อกโก |
BRAZIL
G1 : บราซิล
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม (CONMEBOL)
อันดับโลก : 1
ผู้จัดการทีม : ติเต้
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบก่อนรองชนะเลิศ (2018)
สตาร์ดัง : Neymar (Paris Saint-Germain / France), Casemiro (Real Madrid / Spain), Vinicius Jr. (Real Madrid / Spain)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : เนย์มาร์ จูเนียร์ ดาวยิงแซมบ้าของปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยิงประตูให้ทีมชาติบราซิลไปแล้ว 74 ประตู ตามหลัง เปเล่ ตำนานแซมบ้าและดาวยิงสูงสุดตลอดกาล แค่ 3 ประตูเท่านั้น ซึ่งเป็นไปได้สูงมากที่ เนย์มาร์จะทำลายสถิติดังกล่าว
เนย์มาร์ เคยเป็นที่รักและเป็นความหวังสูงสุดของแฟนบอลแซมบ้า โดยความสำเร็จเดียวที่เขาเคยได้กับบราซิลคือเหรียญทองโอลิมปิค เกมส์ ในปี 2016 ถึงแม้บราซิล คว้าแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ (โคปา อเมริกา 2019) แต่เจ้าตัวไม่ได้อยู่กับทีมชุดนั้น เนื่องจากต้องถอนตัองเพราะอาการบาดเจ็บ
ดาวยิงวัย 30 เคยเปิดเผยว่า ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ คงเป็นครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว และนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะพิสูจน์ตัวเอง และทำให้แฟนบอลกลับมาศรัทธาในตัวเขาอีกครั้ง นอกจากเนย์มาร์ , วินิซิอุส จูเนียร์ แนวรุกของ เรอัล มาดริด เป็นนักเตะอีกรายที่น่าจับตาสำหรับทีมชาติบราซิล
บทวิเคราะห์และทำนาย : บราซิล เจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุด 5 สมัย ครั้งสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปถึง 20 ปี คือปี 2002 ปัจจุบันเป็นทีมอันดับ 1 ของโลก และผ่านเข้าฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในฐานะแชมป์ของโซนอเมริกาใต้
‘เซเลเซา’ บราซิล อยู่กลุ่ม จี ร่วมกับ เซอร์เบีย, สวิตเซอร์แลนด์ และแคเมอรูน ซึ่งถ้าพิจารณาตามเนื้อผ้าแล้ว บราซิลไม่น่าพลาดการเป็นแชมป์กลุ่ม จี หากทำได้สำเร็จพวกเขาจะไขว้ไปอยู่สายบนของรอบน็อคเอาต์ เส้นทางดูไม่หนักมาก บ่อนพนันถูกกฎหมายจึงยกให้บราซิลเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกฉบับกาตาร์ 2022!
SERBIA
G2 : เซอร์เบีย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม A (UEFA)
อันดับโลก : 25
ผู้จัดการทีม : ดราแกน สตอยโควิช
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง : Dusan Tadic (Ajax / Netherlands), Aleksandar Mitrovic (Fulham / England), Luka Jovic (Fiorentina / Italy)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กองหน้าของฟูแล่ม ดาวซัลโวของแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ เมื่อฤดูกาลล่าสุด ซึ่งเป็นตัวเลขสุดโหด ทำไป 43 ประตูจาก 44 นัด!
นอกจากนี้ มิโตรวิช ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับทีมชาติ เซอร์เบีย โดยลง 8 นัด ซัดไป 8 ประตู อีกทั้งปัจจุบัน กองหน้าวัย 27 ปี รั้งดาวซัลโวสูงสุดตลอดการของทีมชาติ เซอร์เบีย ด้วยสถิติ 46 ประตู จาก 74 เกม ถึงแม้บ่อยครั้งถูกวิจารณ์ว่าเก่งแค่ลีกรอง และมักโชว์ฟอร์มไม่ออกในลีกสูงสุด แต่ด้วยสถิติเหล่านี้ ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาคือกองหน้าที่จะทำให้กองหลังเจอกับฝันร้ายในฟุตบอลโลก 2022
บทวิเคราะห์และทำนาย : เซอร์เบีย ชวดยูโร 2020 แต่สามารถคว้าตั๋วลุยฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมจบอันดับสูงสุดและไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกของกลุ่ม A ที่มีทีมแกร่งอย่างโปรตุเกส
ฟุตบอลโลก 2022 เป็นการเข้าร่วมเพียงครั้งที่ 3 ในนามทีมชาติ เซอร์เบีย() โดยพวกเขาไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่ม แต่เซอร์เบียชุดนี้ ที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในรอบแบ่งกลุ่ม บวกกับขุมกำลังที่ดูดีในระดับหนึ่ง มีนักเตะอย่าง ดูซาน ทาดิช ลูก้า โยวิช และ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช คอยอยู่ช่วยทีมเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ในเวทีเวิร์ลคัพครั้งนี้
SWITZERLAND
G3 : สวิตเซอร์แลนด์
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : แชมป์กลุ่ม C (UEFA)
อันดับโลก : 14
ผู้จัดการทีม : มูรัต ยาคิน
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง : Yann Sommer (Borussia Mönchengladbach / Germany),Granit Xhaka (Arsenal / England), Xherdan Shaqiri (Chicago Fire / USA), Djibril Sow (Eintracht Frankfurt / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ยานน์ ซอมเมอร์ ผู้รักษาประตูที่ไม่มีใครพูดถึง แต่ฟอร์มโคตรหนึบ แล้วมักจะโชว์ฟอร์มเทพในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ นายด่านวัย 33 ปี กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลทั้งประเทศ โชว์ผลงานหนึบในศึกยูโร 2020 โดยเฉพาะเกมดวลกับฝรั่งเศส ในรอบ 16 ทีม ที่ต้องดวลจุดโทษชี้ขาด ซึ่งเจ้าตัวเซฟลูกของ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เป็นฮีโร่พา สวิส ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย สำหรับฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้ หากซอมเมอร์ ยังสามารถโชว์ฟอร์มเหนียวก็ไม่แน่เจ้าตัวอาจเป็นฮีโร่ช่วยทีมลิ่วสู่รอบลึกๆอีกครั้ง
บทวิเคราะห์และทำนาย : ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์พลิกเข้าป้ายคว้าแชมป์กลุ่ม ซี รอบคัดเลือก โซนยุโรป แบบหวุดหวิด เอาชนะ บัลแกเรีย 4-0 คว้าตั๋วฟุตบอลโลกที่กาตาร์โดยอัตโนมัติ พร้อมกับเขี่ย อิตาลี ที่ทำได้เพียงแค่เสมอกับไอร์แลนด์เหนือ 0-0 ตกลงไปเป็นอันดับ 2 และต้องไปชิงโควตาในรอบเพลย์ออฟ
ฟุตบอลโลก 2018 “ทีมแดนนาฬิกา” ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนพ่ายสวีเดน 1-0 ในขณะผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในฟุตบอลโลกคือการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งต้องย้อนไปไกลเมื่อปี 1934, 1938 และ 1954 สำหรับฟุตบอลโลก 2022 สวีสอยู่กลุ่ม จี คงต้องแย่งชิงอันดับสองเพื่อเข้ารอบน็อคเอ้าท์กับทาง เซอร์เบีย และ แคเมอรูน ส่วนบราซิล น่าจะการันตีการเป็นแชมป์กลุ่ม
CAMEROON
G4 : แคเมอรูน
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบสาม (CAF)
อันดับโลก : 37
ผู้จัดการทีม : ริโกแบร์ ซง
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2014)
สตาร์ดัง :Vincent Aboubakar(Al Nassr / Saudi Arabia), Andre Onana (Ajax / Netherlands), Eric Maxim Choupo-Moting (Bayern Munich / Germany)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : แว็งซ็องต์ อาบูบาคาร์ ชื่อนี้อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ที่จริงแล้ว อาบูบาคาร์คือรองดาวยิงสูงสุดตลอดกาล ของแคเมอรูน 33 ลูก เป็นรองเพียง ซามูเอล เอโต้(54 ประตู) ตำนานกองหน้าของทัพ “หมอผี” อาบูบาคาร์ กองหน้าวัย 30 ปี ที่ปัจจุบันค้าแข้งในลีกซาอุดีอาระเบีย กับ อัล นาสเซอร์ เคยลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วสองครั้ง(2010 และ 2014) จะเป็นดาวยิงตัวความหวังของทีม “หมอผี” ในศึกฟุตบอลโลกอีกครั้ง เมื่อช่วงปลายปีนี้
บทวิเคราะห์และทำนาย : แคเมอรูน เป็นอีกหนึ่งทีมที่ประสบความสำเร็จมากสุดในทวีปแอฟรีกา คว้าแชมป์ระดับทวีป แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ 5 สมัย และผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกไปแล้ว 7 สมัย โดยฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ปลายปีนี้เป็นการเข้ารอบสุดท้ายครั้งที่ 8 ของทัพ “หมอผี” ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาในเวทีนี้ คือการเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 1990
แคเมอรูนผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบสุดดราม่า โดยในรอบ 3 ของรอบคัดเลือก โซนแอฟริกา ทัพหมอผี ดวลกับแอลจีเรีย พ่ายคาบ้าน 0-1 ในนัดแรก ก่อนบุกไปชนะ แอลจีเรีย 1-0 จบ90นาที ผลรวมสองนัดเสมอ 1-1 โดยต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แอลจีเรียขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ก่อนแคเมอรูนมาได้ คาร์ล โตโก เอคามบี้ เป็นฮีโร่ซัดประตูสำคัญให้แคเมอรูน ในนาที 120+4 ทำให้สกอร์รวม 2-2 ช่วยทัพหมอผีผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบหวุดหวิด ด้วยกฏอเวย์โกล์ อย่างไรก็ดี แคเมอรูนที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 37 โลก ดูเป็นรองอีกสามทีมในกลุ่มเดียวกัน ไม่น่าจะผ่านเข้ารอบน็อคเอ้าได้ และมีโอกาสสูงที่จะจบบ๊วยของกลุ่ม จี
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม G
# | ทีม |
1) | บราซิล |
2) | เซอร์เบีย |
3) | สวิตเซอร์แลนด์ |
4) | แคเมอรูน |
PORTUGAL
H1 : โปรตุเกส
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะเพลย์ออฟ สาย C (UEFA)
อันดับโลก : 8
ผู้จัดการทีม : เฟร์นานโด ซานโตส
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบ 16 ทีมสุดท้าย (2018)
สตาร์ดัง :Cristiano Ronaldo (Man. United / England), Diogo Jota (Liverpool / England),Bruno Fernandes (Man. United / England), Bernardo Silva (Man. City / England)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เช่นเดียวกันกับ ลิโอเนล เมสซี่ นี่อาจเป็นฟุตบอลโลกหนสุดท้ายของกองหน้าซูเปอร์สตาร์ ได้ไปเล่นเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย เนื่องจากมีอายุ 37 ปีแล้ว นอกจากนี้ โรนัลโด้ ที่กำลังจะลุยบอลโลกสมัยที่ 5 ของตัวเองกับทัพฝอยทอง มีชื่อทำประตูในฟุตบอลโลกทุกสมัยทาบสถิติของ มิโรสลาฟ โคลเซ, เปเล่ และ อูเว่ ซีเลอร์ ซึ่งต้องการเพียง 1 ประตูในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็จะทำลายสถิติผู้ทำประตูในฟุตบอลโลกมากสุดถึง 5 สมัย
บทวิเคราะห์และทำนาย : โปรตุเกส เป็นชาติที่ผลิตนักฟุตบอลระดับเวิร์ลคลาสมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยูเซบิโอ้ หลุยส์ ฟิโก้ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก โดยผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการคว้าอันดับ 3 เมื่อปี1966 และ อันดับ 4 ปี 2006 ที่ประเทศเยอรมัน
“ฝอยทอง” โปรตุเกส ไม่สามารถคว้าตัวอัตโนมัติได้ ต้องไปเตะในรอบเพลย์ออฟ โดยนัดชิง ก่อนที่จะเอาชนะ มาซิโดเนียเหนือ 2-0 คว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ ถูกจับอยู่กลุ่ม H ในฐานะทีมวาง ร่วมกับ กานา,อุรุกวัย และเกาหลีใต้ ถือว่างานค่อนข้างเบาสำหรับ โปรตุเกส ไม่น่าจะมีปัญหาที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป
GHANA
H2 : กานา
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : ผู้ชนะรอบสาม (CAF)
อันดับโลก : 60
ผู้จัดการทีม : มิโลวาน ราเยวัช
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2014)
สตาร์ดัง : Thomas Partey (Arsenal / England), Mohammed Kudus (Ajax / Netherlands), Jordan Ayew (Crystal Palace / England),Inaki Williams (Ath. Bilbao / Spain)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางอาร์เซน่อล แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงเล่นให้กานา มาแล้วทั้งสิ้น 38 นัด ทำได้ 12 ประตู ถือว่าเป็นสถิติที่ดีสำหรับกองกลางตัวรับอย่าง ปาร์เตย์ ค้าแข้งในลีกใหญ่ยุโรปมาเป็นเวลานาน กับ แอต. มาดริด ในลาลีกา และ อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก กองกลางวัย 29 จะกลายเป็นกำลังหลักสำคัญให้กับทัพ “ดาวดำ” ในฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้ ทีมชาติกานา ได้ทำการดึงนักเตะจากลีกชั้นนำยุโรปที่มีเชื้อสายกานาหลายคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคืออินากี วิลเลียมส์ กองหน้าของแอธเลติก บิลเบา เคยผ่านการเล่นให้ สเปน ชุดใหญ่ในเกมกระชับมิตรกับบอสเนียเมื่อปี 2016 ตามเงื่อนไขแล้วเจ้าตัวยังสามารถย้ายทีมชาติได้ ก่อนจะตัดสินใจย้ายเล่นให้กับกานา ในที่สุด วิลเลียมส์ จะเป็นนักเตะที่น่าจับตามองอีกคนสำหรับ กานา
วิเคราะห์และทำนาย : กานา ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 (2006,2010,2014 และ 2022) พวกเขาไม่ผ่านรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด โดยผลงานที่ดีที่สุดสำหรับขุนพลดาวดำคือการผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 2010 พ่ายอุรุกวัย แบบสุดเจ็บปวด ซึ่งในเกมนั้น ทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 โดยกานา มีโอกาสได้ประตูชัย ในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลา เมื่อ โดมินิค อดิเยียห์ โหม่งบอลกำลังจะเข้าประตู หลุยส์ ซัวเรซ กระโดดใช้มือปัดบอลออกมา และผู้ตัดสิเป่าให้จุดโทษกับกานา พร้อมแจกใบแดงให้กับกองหน้าอุรุกวัย แต่ทว่า อซาโมอาห์ กียาน สตาร์ดังของดาวดำ ณ เวลานั้น กลับยิงจุดโทษพลาด ทำให้ต้องดวลจุดโทษ สุดท้ายเป็น อุรุกวัย ที่ยิงแม่นกว่า ชนะไปในที่สุด 4-2 ทำให้ กานา ตกรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างน่าเจ็บปวด ฟุตบอลโลก กาตาร์ กานา มีโอกาสล้างแค้น อุรุกวัย หลังทั้งสองถูกจับอยู่กลุ่มเดียวกัน ในฟุตบอลโลกช่วงปลายปีนี้
สำหรับ ทีมชาติกานา ได้ทำการดึงนักเตะจากลีกชั้นนำยุโรปที่มีเชื้อสายกานาหลายคน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ทีมในการเตรียมลุยฟุตบอลโลกในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าวิเคราะห์จากอันดับโลก พวกเขาอยู่อันดับต่ำสุด ถ้าเทียบกับอีก 31 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งกานามีโอกาสสูงมากที่จำจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม
URUGUAY
H3 : อุรุกวัย
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 3 (CONMEBOL)
อันดับโลก : 13
ผู้จัดการทีม : ดิเอโก้ อลอนโซ่
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบก่อนรองชนะเลิศ (2018)
สตาร์ดัง : Luis Suarez (Nacional / Uruguay),Edinson Cavani (Free Agent),Darwin Nunez(Liverpool / England), Federico Valverde (Real Madrid / Spain)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : หลุยส์ ซัวเรซ และเอดินสัน คาวานี่ ทั้งคู่อายุปาเข้าไป 35 ปีแล้ว ระดับโลก ดาร์วิน นูเญซ
บทวิเคราะห์และทำนาย : อุรุกวัย แชมป์โลก 2 สมัย 1930 และ 1950 เป็นชาติที่ผลิตกองหน้าระดับโลก อาทิเช่น ดิเอโก้ ฟอร์ลัน,หลุยส์ ซัวเรซ และเอดินสัน คาวานี่ สำหรับ อุรุกวัย กลับคืนสู่ฟอร์มเก่งของพวกเขาได้ ด้วยผลงาน ชนะ 4 จาก 4 นัด สำหรับปี 2022 ซึ่งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมาพวกเขาทำผลงานได้ค่อนข้างแย่ ลงแข่งขันในทุกรายการ 15 นัด แพ้ 6 เสมอ 5 และ ชนะเพียง 4 นัด ถือว่าผลงานต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมาก
อย่างไรก็ดี ด้วยฟอร์มของปีนี้ ที่ดูดีขึ้น บวกกับคลื่นลูกใหม่มาแรงอย่าง ดาร์วิน นูเญซ และ เฟเดริโก บัลเบร์เด้ ที่ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด น่าจะช่วยทีมได้เยอะเลยทีเดียว อุรุกวัยมีโอกาสลุ้นแชมป์กลุ่ม H ได้เหมือนกัน พวกเขาเคยเขี่ย โปรตุเกสตกรอบ 16 ทีม เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ต้องมาโคจรเจอกันอีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2022 ทั้งสองน่าจะแย่งชิงอันดับหนึ่งของกลุ่มได้อย่างสนุก
SOUTH KOREA
H4 : เกาหลีใต้
ผ่านเข้ารอบในฐานะ : อันดับ 2 กลุ่ม A (AFC)
อันดับโลก : 29
ผู้จัดการทีม : เปาโล เบนโต้
ผลงานในฟุตบอลโลกหลังสุด: รอบแบ่งกลุ่ม (2018)
สตาร์ดัง : Son Heung-min (Tottenham / England), Hwang Hee-chan (Wolves / England), Kim Min-jae (Napoli / Italy), Hwang Ui-jo (Bordeaux / France)
คีย์แมนที่น่าจับตามอง : ซน ฮึง-มิน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย 7สมัย ถูกยกย่องว่าเป็นนักเตะเอเชียที่เก่งที่สุดในวงการลูกหนังโลก ณ วินาทีนี้ โชว์ฟอร์มการถล่มประตูอย่างร้อนแรงในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-22 ซึ่งซัดไป 23 ลูก เป็นดาวซัลโวลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เทียบเท่ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้แนวรุกของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้ารองเท้าทองคำในเวทีพรีเมียร์ลีก
ซน ลงเล่นให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ ลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแล้ว 2 สมัย ในปี 2014 และ 2018 ซึ่งทั้งสองสมัยนั้นเจ้าตัวทำไปแล้ว 3 ประตู ให้กับขุนพลโสมขาว ด้วยผลงานเจ้าตัวกับสเปอร์สที่คงเส้นคงวา ผลิตสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ ซน จะผลิตสกอร์เพิ่มแล้วช่วย เกาหลีใต้ สร้างเซอร์ไพร์สในฟุตบอลโลก 2022
บทวิเคราะห์และทำนาย : ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เกาหลีใต้ ชนะเยอรมนี 2-0 ไปแบบพลิกล็อคช็อกแฟนบอลทั่วโลก แต่เกาหลีใต้ ไม่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปอยู่ดีเนื่องจากแพ้สองเกมแรกให้กับ สวีเดน และ เม็กซิโก กอดคอเยอรมันซึ่งเป็นแชมป์เก่า (2014) ตกรอบแบ่งกลุ่มแบบช็อกโลกเช่นเดียวกัน
ขุนผลโสมขาว ผ่านเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกเมื่อปี 1982 และนับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ไม่เคยพลายตั๋ยลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกเลย ซึ่งฟุตบอลโลกฉบับกาตาร์ปลายปีนี้ เป็นการเข้าร่วมครั้งที่ 11 ของพวกเขา ผลงานที่ดีที่สุดของเกาหลีใต้ ในเวทีนี้ คือการคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งปีนั้นเกาหลีเป็นเจ้าภาพร่วมกับ ญี่ปุ่น อีกทั้งเป็นผลงานของชาติจากเอเชียที่ดีที่สุดในฟุตบอลโลกจนถึงปัจจุบัน สำหรับฟุตบอลโลก 2022 พวกเขาอยู่กลุ่ม ร่วมกับ โปรตุเกส,กานา และ อุรุกวัย ถือว่าเป็นงานหนักพอสมควร เนื่องจาก โปรตุเกส และอุรุกวัย เป็นสองทีมเต็งที่น่าจะผ่านสูรอบ 16 ทีม ได้ ทำให้ เกาหบีใจ้ มีโอกาสสูงที่พวกเขาอาจจะต้องกลับบ้านเร็วอีกครั้ง
ทำนายผลตารางคะแนน กลุ่ม G
# | ทีม |
1) | อุรุกวัย |
2) | โปรตุเกส |
3) | เกาหลีใต้ |
4) | กานา |